ปัจจุบันปัญหาของผู้หญิงกลายเป็น ปัญหาสากลที่ทุกคนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ เช่นกันยังมี CSO อีกมากมายในโลกใบนี้
ที่กำลังมุ่งมั่นสร้างสรรค์สังคมที่ดีงาม ความคิดที่ว่าชายเป็นใหญ่ อาจไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเสมอไปในโลกที่ทุกเพศมีความ
เท่าเมียม วันนี้ thaicivilsociety ขอนำทุกท่านไปสัมผัสกับ องค์กรที่ทำงานเพื่อผู้หญิงในหลายประเทศทั่วโลก กับเจ้าของ
โครงการ Monma Project เธอคือสุภาพสตรีชาวออสเตรเลียที่บินตรงมาจากกรุงเพิร์ธ เพื่อริเริ่มโครงการเพื่อผู้หญิงใน
ประเทศไทย ไปรู้จักกับเธอ โจอานา ฮิกกินส์
ช่วยเเนะนำสิ่งที่คุณกำลังทำ และจุดหมายปลายทางของคุณที
เป้าประสงค์หลักของโครงการ Monma คือการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติในหลากหลายรูปแบบที่
เกิดกับผู้หญิงและเด็กทั่วทุกมุมโลก เราอยู่ในโลกที่ผู้หญิงและเด็กต้องเผชิญกับความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติติที่มีอย่างแพร่หลาย
จึงจำเป็นที่พวกเราควรมีส่วนร่วมในการยุติเรื่องราวเหล่านี้ เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ โดยปราศความรุนแรงและการ
เลือกปฏิบัติติ ดังนั้นโครงการ Monma จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมต่อผู้หญิงที่ต้องทนต่อการคุกคาม และจมอยู่กับความ
รุนแรงและการเลือกปฏิบัติติ รวมทั้งกระตุ้นให้ผู้คนทั่วไปม่ว่าจะเพศไหน กล้าที่จะต่อต้านปัญหาและไม่นิ่งเฉยต่อปัญหาของผู้หญิง
สิ่งที่ข้าพเจ้าสังเกตได้ผ่านการทำงานกับโครงการ Monma ซึ่งดำเนินโครงการ ในหลากหลายประเทศทั่วโลก และมองหาปัญหาด้าน
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างหลากหลายในผู้หญิงซึ่งมีบางประเด็นที่พบได้บ่อย โดยมิได้คำนึงถึงวัฒนธรรม ความรุนแรงในครอบครัว
ดูเหมือนว่าจะพบได้ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง เช่น การล่วงละเมิดทางเพศตามท้อองถนนและในที่ทำงาน การข่มขืนและการเลือกปฏิบัติอย่าง
เห็นได้ชัด ทำให้เห็นว่าผู้หญิงและเด็กหญิงไม่มีคุณค่าเทียบเท่าผู้ชาย และไม่มีสิทธิเท่ากับผู้ชาย ปัญหาเหล่านี้พบได้ทั่วไป แม้จะมี
เหตุผลที่แตกต่างกันออกไป บางกรณีผู้คนใช้หลักศาสนาในการสร้างความถูกต้องในเรื่องของความรุนแรงและการทารุณกรรม พวกเขา
เหล่านั้นอ้างว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม หรือพวกเขาอ้างว่าการล่วงละเมิดทางเพศเป็นส่วนหนึ่งของประเพณี เช่น
เมื่อครั้งที่เดินทางไปนามิเบีย ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่ามี "ประเพณี" ที่ลุงควรจะมีเพศสัมพันธ์กับหลานของตนเองได้
แสดงว่าคุณเจอสิ่งที่เลวร้าย และในขณะเดียวกันก็พบเห็นความสำเร็จในด้านการทำงานเพื่อผู้หญิงมาบ้าง ลองเล่าให้ฟังหน่อย ?
สถานที่ที่เลวร้ายที่สุดที่ข้าพเจ้าเคยพบเห็นเกี่ยวกับเรื่องสิทธิสตรีคือ อีรัก ผู้หญิงถูกเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการล่วงละเมิด
ทางเพศตลอดเวลา ที่สำคัญคือมีการถูกจำกัดในเรื่องของพฤติกรรมทางเพศ ส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า การฆ่าอย่างมีเกียรติ การฆ่าอย่างมี
เกียรติมาจากความคิดที่ว่ า ผู้หญิงควรมีเพศสัมพันธ์กับสามีของตนเท่านั้น หากเธอมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นก็ จะถือว่าทำลายเกียรติภูมิของ
ครอบครัว วิธีการเดียวที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของครอบครัวกลับมา คือการฆ่าเธอนี่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิสตรีและเสรีภาพอย่างมาก เช่นกันนั้น
หนึ่งในสถานที่ที่ดีสุดที่ข้าพเจ้าได้รับรู้เกี่ยวกับสิทธิสตรีคือ สแกนดิเนเวีย ไม่เพียงแต่กฎหมายที่คุ้มครองการกระทำที่ล่วงละเมิดต่อทางกาย
และทางเพศต่อผู้หญิงเท่านั้น แ ต่ยังรวมถึงสังคมที่ไม่ยอมรับเรื่องนี้ ผู้หญิงมีสิทธิที่จะเลือกเครื่องแต่งกายของตนเอง ซึ่งเป็นองค์ประกอบ
สำคัญต่อความเป็นอยู่ของผู้หญิงดั่งที่พบทั่วทั้งโลก ผู้หญิงตกเป็นเป้าหมายการล่วงละเมิดทางเพศโดยถูกกล่าวหาว่า เพราะเสื้อผ้าของเธอ
ก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศและการถูกทำร้ายร่างกาย ผู้หญิงยังได้รับการสนับสนุนสิทธิในการดูแลลูกซึ่งช่วยให้ผู้หญิงทำงานได้ง่ายขึ้น
และไม่ต้องพึ่งพาผู้ชาย ดังนั้นจึงไม่เสี่ยงต่อการถูกทำร้าย สำหรับประเทศไทยเอง ยังมีบางพื้นที่ที่มีข้อมูลบ่งชี้เรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะในกลุ่ม
ชนเผ่าทางภาคเหนือ แต่ก็ใช่ว่าสังคมเมืองจะไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง
ทำไมสังคมต้องมีคนแบบคุณ หรือทำไมต้องมีองค์กร /โครงการที่ทำงานในรูปแบบประชาสังคม ?
เป็นสิ่งสำคัญที่เราทุกคนต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้เนื่องจากไม่มีใครควรถูกกระทำทารุณกรรมทางกายหรือทางเพศหรือการล่วงละเมิดเลยทีเดียว
ผู้หญิงควรมีอิสระที่จะใช้ชีวิตโดยปราศจากความรุนแรงและควรมีอิสระในการเลือกสิ่งที่ตนต้องการหรือต้องการในชีวิต การลุกขึ้นมาเพื่อบอก
กับสังคมว่าตรงนั้น ตรงนี้กำลังมีปัญหา และเราต้องช่วยกันแก้ไข ไม่ต้องรอใคร เป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคนบนโลกนี้ คุณจะต้องไม่คิดว่า
เกิดมาเพื่ออยู่อาศัยแล้วตายไปเท่านั้น มันต้องสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้โลกนี้ด้วย
สุดท้าย ทำไมคุณถึงสนใจงานภาคประชาสังคม และมีอะไรอยากฝากบอกแก่คนไทย ?
ฉันเริ่มมีความสนใจงานของภาคประชาสังคม หรือเอ็นจีโอ โดยเฉพาะประเด็นด้านสิทธิของผู้หญิง จากการเดินทางของฉันเอง ฉันเดินทางมา
แล้วทั่วทั้งแอฟริกา ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และหมู่เกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดียรวม
ทั้งคาบสมุทรแคริเบียน สิ่งที่สังเกตได้ตบอดจากการเดินทาง คือการได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ดีจากผู้ชายทุกที่ที่ฉันไปคล้ายกับว่าโลกนี้เพศ
หญิงไม่ควรค่าต่อการได้รับความเคารพ ฉันรู้สึกอึดอัดและโกรธที่ได้รับการปฏิบัติติในทางที่คล้ายดูถูก คุกคาม และเลือกปฏิบัติติแบบนั้น
มันจึงทำให้ฉันรู้สึกว่า ควรจะเริ่มทำอะไรบางอย่างเพื่อลดอันตรายในชีวิตของสตรี รวมถึงเด็กหญิงที่ได้รับความรุนแรง ถูกคุกคามและต้องทน
กับการเลือกปฏิบัติติ ฉันจึงเริ่มต้นเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลกที่กำลังถูกล่วงละเมิด ต้องทนกับความรุนแรงและ
การเลือกปฏิบัติติ ควบคู่ไปกับการเริ่มต้นโครงการช่วยเหลือ เรียกร้องเพื่อโลกที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงและเด็กหญิงทุกคน
สุดท้าย อยากบอกกับผู้หญิงและเด็กหญิงทั่วทุกภาคพื้นยืนหยัดเพื่อตัวเองคุณมีคุณค่า คุณมีความสำคัญ และนั่นคือสิทธิ์ของคุณที่จะใช้ชีวิต
อย่างมีความสุข ปลอดภัย เสรี และเท่าเทียม จงต่อสู้เพื่อสิ่งเหล่านี้